Export
- Export APA
- Export BibTeX
- Export Ris
Publication: ปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นและการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์
ในพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย
ของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่
0
0
Resource Type
Language
tha
File Type
application/pdf
Access Rights
Open Access
Rights
Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
Rights Holder(s)
Maejo University
Suggested Citation
Thanasarn Thammalerdsathid, ธนศานต์ ธรรมเลิศสถิต ปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นและการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์
ในพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย
ของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่, Factors Affecting Opinions And Practice With The Privileges Under
The Rubber Authority Of Thailand Act
Of Phrae Rubber Agriculturists.. สืบค้นจาก: https://hdl.handle.net/20.500.14839/522
Research Projects
Organizational Units
Journal Issue
Creator(s)
Advisor(s)
Other Contributor(s)
Abstract
Rubber is an essential economic crop that brings much income into the country each year. Thailand is the world's largest rubber exporting country occupying the No.1 export market share. It has a significant relationship with the lives of not less than 1.2 million households. Therefore, rubber is essential for the whole economy and the quality of life of agriculturists.
The main purpose of this study was to investigate 1) basic personal factors of the agriculturists in Prae province, their socio-economic conditions, and information receiving, 2) their levels of knowledge, opinions, and practices in accordance with the Rubber Authority of Thailand Act, 3) the relationships between the former factors and the latter mentioned previously and, 4) their problems, obstacles, and recommendations on rubber developments based on the mentioned act. The study employed 310 samples and a set of questionnaires as the tool for data collection. The data were analyzed employing descriptive statistics and Multiple Regression.
The results indicated that generally speaking, the majority of Phrae agriculturists were male, aged 51.75 years, married, and had elementary education level. Their average income was 105,214.19 baht and obtained from rubber cultivation for 64,667.10 baht. On average, their land for rubber cultivation was 13.09 rai, and their work experience was 11.9 years. They, on average, had 2 workers, and the majority of them were the group members. On average, they participated in 3 activities and 1.98 courses, mostly contacted the Rubber Authority of Thailand, and received information via 2.50 channels.
It was found that generally speaking, the agriculturists’ knowledge level about the Privileges under the Rubber Authority of Thailand Act was at a moderate level, and their opinions and operations were at high levels. The factors associating with their opinions were rubber farming experience, being group memberships, contact with the agencies, receiving information, and their knowledge levels, which yielded statistical significance (Sig. < 0.05). The factors associating with the compliance were gender, status, rubber farming work experience, being memberships, participating community activities, training, contacting with the agencies, and knowledge levels, which also yielded statistical significance (Sig. < 0.05).
Moreover, there were some problems, obstacles, and recommendations for rubber agriculturists. They did not have documents showing their land rights, the rubber prices were down, and lacked knowledge for producing quality rubber. Therefore, they would like to have an amendment to the regulations to allow people without privileges to be supported. They wanted to have a local rubber market system and training courses to improve their skills for the production of standard quality rubber needed for the market to increase product value and distribution channels.
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่นำรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่องโลก ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง และมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับชีวติความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยางไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านครัวเรือน ฉะนั้นยางพาราจึงนับว่ามีความสำคัญทั้งต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นและการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ในพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทยของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่ครั้งนี้เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคล เศรษฐกิจ สังคม การรับข้อมูลข่าวสาร 2) ระดับความรู้ ความคิดเห็น และการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย 3) หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล เศรษฐกิจ สังคม การรับข้อมูล และระดับความรู้กับความคิดเห็นและการปฏิบัติ 4) ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ ต่อแนวทางการพัฒนายางพาราภายใต้ พรบ.การยางแห่งประเทศไทย จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 310 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุ ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 51.75 ปี สถานภาพสมรส มีการศึกษาระดับประถมศึกษา รายได้รวมเฉลี่ย 105,214.19 บาท รายได้จากการปลูกยางพาราเฉลี่ย 64,667.10 บาท มีพื้นที่ปลูกยางพาราเฉลี่ย 13.09 ไร่ ใช้แรงงานเฉลี่ย 2 คน มีประสบการณ์การทำสวนยางเฉลี่ย 11.9 ปี ส่วนใหญ่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม การเข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ย 3 กิจกรรม ส่วนใหญ่ผ่านการฝึกอบรมเฉลี่ย 1.98 หลักสูตร การติดต่อหน่วยงาน ส่วนใหญ่ติดต่อกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านการรับข้อมูลข่าวสารเฉลี่ย 2.50 ช่องทาง เกษตรกรมีระดับความรู้ในสิทธิประโยชน์ตาม พรบ.การยางแห่งประเทศไทยระดับกลาง มีความคิดเห็นระดับมาก และมีการปฏิบัติที่ระดับมาก ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความคิดเห็น ได้แก่ ประสบการณ์การทำสวนยาง การเป็นสมาชิกกลุ่ม การติดต่อหน่วยงาน การรับข้อมูลข่าวสาร และระัดบความรู้ มีนัยสำคัญทางสถิติ (Sig.<.05) ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย ได้แก่ เพศ สถานภาพ ประสบการณ์ในการทำสวนยาง การเป็นสมาชิกกลุ่ม การร่วมกิจกรรมชุมชน การฝึกอบรม การติดต่อหน่วยงาน และระดับความรู้ โดยมีระดับนัยสำคัญ (Sig.<.05) ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะของเกษตรกรชาวสวนยาง คือเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ราคายางตกต่ำ และการขาดความรู้ในการบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ จึงเสนอให้มีการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ได้รับการสนับสนุน การสร้างระบบตลาดยางท้องถิ่น และการจัดหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาทักษะ ความรู้ในการผลิตยางให้ได้คุณภาพมาตรฐาน
ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่นำรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่องโลก ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง และมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับชีวติความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยางไม่น้อยกว่า 1.2 ล้านครัวเรือน ฉะนั้นยางพาราจึงนับว่ามีความสำคัญทั้งต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อความคิดเห็นและการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ในพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทยของเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่ครั้งนี้เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคล เศรษฐกิจ สังคม การรับข้อมูลข่าวสาร 2) ระดับความรู้ ความคิดเห็น และการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย 3) หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล เศรษฐกิจ สังคม การรับข้อมูล และระดับความรู้กับความคิดเห็นและการปฏิบัติ 4) ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะ ต่อแนวทางการพัฒนายางพาราภายใต้ พรบ.การยางแห่งประเทศไทย จากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 310 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และการวิเคราะห์ถดถอยพหุ ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดแพร่ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุเฉลี่ย 51.75 ปี สถานภาพสมรส มีการศึกษาระดับประถมศึกษา รายได้รวมเฉลี่ย 105,214.19 บาท รายได้จากการปลูกยางพาราเฉลี่ย 64,667.10 บาท มีพื้นที่ปลูกยางพาราเฉลี่ย 13.09 ไร่ ใช้แรงงานเฉลี่ย 2 คน มีประสบการณ์การทำสวนยางเฉลี่ย 11.9 ปี ส่วนใหญ่เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม การเข้าร่วมกิจกรรมเฉลี่ย 3 กิจกรรม ส่วนใหญ่ผ่านการฝึกอบรมเฉลี่ย 1.98 หลักสูตร การติดต่อหน่วยงาน ส่วนใหญ่ติดต่อกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ด้านการรับข้อมูลข่าวสารเฉลี่ย 2.50 ช่องทาง เกษตรกรมีระดับความรู้ในสิทธิประโยชน์ตาม พรบ.การยางแห่งประเทศไทยระดับกลาง มีความคิดเห็นระดับมาก และมีการปฏิบัติที่ระดับมาก ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความคิดเห็น ได้แก่ ประสบการณ์การทำสวนยาง การเป็นสมาชิกกลุ่ม การติดต่อหน่วยงาน การรับข้อมูลข่าวสาร และระัดบความรู้ มีนัยสำคัญทางสถิติ (Sig.<.05) ส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตามสิทธิประโยชน์ใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย ได้แก่ เพศ สถานภาพ ประสบการณ์ในการทำสวนยาง การเป็นสมาชิกกลุ่ม การร่วมกิจกรรมชุมชน การฝึกอบรม การติดต่อหน่วยงาน และระดับความรู้ โดยมีระดับนัยสำคัญ (Sig.<.05) ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะของเกษตรกรชาวสวนยาง คือเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ราคายางตกต่ำ และการขาดความรู้ในการบริหารจัดการผลผลิตได้อย่างมีคุณภาพ จึงเสนอให้มีการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติใน พรบ.การยางแห่งประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ได้รับการสนับสนุน การสร้างระบบตลาดยางท้องถิ่น และการจัดหลักสูตรฝึกอบรมพัฒนาทักษะ ความรู้ในการผลิตยางให้ได้คุณภาพมาตรฐาน
Description
Master of Science (Master of Science (Resources Development and Agricultural Extension))
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาทรัพยากรและส่งเสริมการเกษตร))
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (พัฒนาทรัพยากรและส่งเสริมการเกษตร))
Degree Name
Master of Science
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Discipline
Resources Development and Agricultural Extension
พัฒนาทรัพยากรและส่งเสริมการเกษตร
พัฒนาทรัพยากรและส่งเสริมการเกษตร
Degree Grantor(s)
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
